เมนู

ภิ ไม่พึงเกิดขึ้นอย่างนั้นเลย พระเจ้าข้า.
ภ. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ด้วยประการฉะนี้แล เมื่อทุกข์มีอยู่
เพราะถือมั่นทุกข์ เพราะยึดมั่นทุกข์ จึงเกิดทิฏฐิขึ้นอย่างนี้ว่า
ลมย่อมไม่พัด ฯลฯ เป็นของตั้งอยู่มั่นคงดุจเสาระเนียด เวทนา ฯลฯ
สัญญา ฯลฯ สังขาร ฯลฯ วิญญาณ ฯลฯ เที่ยงหรือไม่เที่ยง ?
ภิ. ไม่เที่ยงพระเจ้าข้า.
ภ. ก็สิ่งใดไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา
เพราะไม่ถือมั่นสิ่งนั้น จะพึงเกิดทิฏฐิขึ้นอย่างนี้ว่า ลมย่อมไม่พัด ฯลฯ
เป็นของตั้งอยู่มั่นคงดุจเสาระเนียด ใช่ไหม ?
ภิ. ไม่พึงเกิดขึ้นอย่างนั้นเลย พระเจ้าข้า.
ภ. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ด้วยประการฉะนี้แล เมื่อทุกข์มีอยู่
เพราะถือมั่นทุกข์ เพราะยึดมั่นทุกข์ จึงเกิดทิฏฐิขึ้นอย่างนี้ว่า
ลมย่อมไม่พัด แม่น้ำย่อมไม่ไหล สตรีมีครรภ์ย่อมไม่คลอด พระจันทร์
และพระอาทิตย์ย่อมไม่ขึ้นหรือย่อมไม่ตก เป็นของตั้งอยู่มั่นคงดุจ
เสาระเนียด. (ไวยากรณะตอนแรกอย่างพิสดาร มี 18)
จบ วาตสูตร

18. เนวโหตินนโหติสูตร



ว่าด้วยความเห็นว่า สัตว์ตายแล้วเกิดและไม่เกิดก็หามิได้



[447] กรุงสาวัตถี. พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสถามว่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่ออะไรมีอยู่ เพราะถือมั่นอะไร เพราะยืดมั่นอะไร
จึงเกิดทิฏฐิขึ้นอย่างนี้ว่า สัตว์หลังจากตายแล้ว ย่อมเกิดอีกก็หามิได้
ย่อมไม่เกิดอีกก็หามิได้ ?